เบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้มากมาย ทั้งภาวะแทรกซ้อนที่จอประสาทตา ภาวะแทรกซ้อนที่ไต หรือภาวะแทรกซ้อนที่เส้นประสาท และภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เหล่านี้ ยังเป็นสาเหตุสำคัญของอาการเจ็บป่วย รวมทั้งความพิการที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของตัวผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย

สาเหตุของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ เนื่องมาจากประสิทธิภาพการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินลดลง และอินซูลินยังมีความสำคัญ เพราะเป็นตัวนำน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงาน เมื่อร่างกายของคนเรามีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ เช่น เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการของโรคหัวใจ โรคไต สูญเสียการมองเห็น และแผลรักษาหายยาก

รู้ได้อย่างไรว่าเป็นเบาหวาน อาการ และสัญญาณเตือน

ผู้ป่วยเบาหวานในระยะแรก ๆ อาจมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงโดยไม่รู้ตัว สาเหตุจากภาวะของโรคมีการก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ และเมื่อไปพบแพทย์ก็เนื่องจากมีโรคแทรกซ้อนหรือมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว แม้ปัจจุบัน เบาหวาน จะเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาตลอดชีวิต แต่ก็สามารถฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืนด้วยระบบการแพทย์แผนปัจจุบัน และดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งระบบด้วยการแพทย์แผนไทยหรือแพทย์ทางเลือก ซึ่งผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการและรับรู้ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ 3 วิธี ดังนี้

•  1. สังเกตอาการที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

ระยะเริ่มแรกผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการใด ๆ หากไม่สังเกต อาการตนเอง หรือไม่ได้ตรวจสุขภาพเลยอาจไม่พบสัญญาณเตือนว่ากำลังเผชิญกับโรคเบาหวานอยู่ สำหรับอาการที่แสดงว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ที่สามารถสังเกตตนเองได้ มีดังนี้

•  - ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
•  - หิวบ่อย รับประทานมาก แต่น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
•  - หิวน้ำบ่อย กระหายน้ำ
•  - เป็นแผลแล้วหายยาก
•  - ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า
•  - อ่อนเพลีย บางครั้งมีอาการตาพร่ามัว
•  - หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
•  - ผิวแห้ง มีอาการคันบริเวณผิวหนัง

•  2. ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยตนเอง

การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองทำได้ไม่ยาก เพียงมีอุปกรณ์ชุดตรวจเบาหวาน ซึ่ง สามารถทำได้ด้วยการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำแล้วเจาะตรวจเลือดที่ปลายนิ้ว จากนั้นหยดเลือดลงบนแถบทดสอบ และอ่านค่าด้วยเครื่องตรวจน้ำตาล โดยทั่วไประดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารเป็นเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง มีดังนี้

•  - ค่าปกติจะอยู่ระหว่าง 70-100
•  - ระดับน้ำตาลในเลือดเท่ากับ 100 – 125 แสดงว่าอาจมีภาวะความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน
•  - ระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่า 126 แสดงว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

•  3. การตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจคัดกรองในบุคคลที่มีความเสี่ยง

การตรวจสุขภาพประจำปี คือแนวทางหนึ่งที่จะทำให้เรารู้ว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือไม่ หรือในคนที่มีความเสี่ยงมีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน การตรวจคัดกรองเบาหวานเป็นทางเลือกหนึ่งในการตรวจเพื่อลดความเสี่ยงของผู้เป็นเบาหวาน และหากพบความผิดปกตินอกจากสามารถดูแลรักษาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วแล้ว ยังช่วยยับยั้งโรคแทรกซ้อนรวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ผู้มีความเสี่ยงที่ควรตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองเบาหวาน เช่น

•  - อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อหาความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานทุก 3 ปี
•  - มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
•  - เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ เช่น ในผู้ชายวัดเส้นรอบเอวได้มากกว่า 90 ซม.หรือผู้หญิงมากกว่า 80 ซม
•  - มีภาวะความดันโลหิตสูงหรือคอเลสเตอรอลสูง
•  - มีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์

แนวทางการรักษา ผู้ป่วยเบาหวาน

การรักษาแผนปัจจุบันสำหรับโรคเบาหวาน เป็นที่ทราบกันดีว่าเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยการรับประทานยาหรือฉีดอินซูลินเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค รวมทั้งควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดหวาน ลดแป้ง เพิ่มการบริโภคอาหารที่มีกากใย และปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่อาจส่งผลต่อภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายร้ายแรง

•  - การรักษาเบาหวาน และโรคเรื้อรังด้วยสมุนไพรแบบตำรับ

การใช้สมุนไพรแบบตำรับประสิทธิภาพสูง สามารถรักษาโรคเบาหวานจนถึงระดับที่ ร่างกายใช้น้ำตาลเป็นพลังงาน และปรับระดับน้ำตาลเองได้เป็นปกติ สามารถหยุดการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ และช่วยบำรุงอวัยวะภายในให้กลับมาแข็งแรงทั้งระบบ ทั้งนี้ต้องเป็นตำรับยาที่เชื่อถือได้ ได้รับอนุญาตถูกต้อง และจะสามารถมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อตำรับยานั้นมีผลวิจัยรับรอง การรักษาด้วยสมุนไพรจึงถือเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและโรคเรื้อรังอื่น ๆ

สุพรรณคลินิก กับแนวทางการรักษาโรคเรื้อรังด้วยสมุนไพร

สุพรรณคลินิก เป็นคลินิกแพทย์แผนไทยที่รักษาโรคเรื้อรังทุกระดับมายาวนานกว่า 60 ปี โดยเฉพาะการรักษาเบาหวาน โรคที่มากับความเสื่อมของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ซึ่งแนวทางการรักษาจะมุ่งเน้นไปที่สาเหตุของโรค และบำรุงอวัยวะภายในที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ โดยใช้ตำหรับยาสมุนไพรหลายชนิดประสานฤทธิ์กันเพื่อช่วยรักษฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานอย่างยั่งยืน ตำรับยารักษาเบาหวานของคลินิก มีงานวิจัยรับรอง และได้ลงในวารสารการแพทย์อีกด้วย

• แนวทางการรักษาของสุรพรรณคลินิก น่าสนใจอย่างไร
•  - สุพรรณคลินิกเป็นสถานพยาบาลที่จดทะเบียนถูกต้อง ได้รับอนุญาตจากกรมการแพทย์ แผนไทยกระทรวงสาธารณสุข
•  - มีงานวิจัยยืนนันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตำรับยารักษาเบาหวาน จาก คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ผลงงานวิจัยนี้ได้ลงในวารสารการแพทย์
•  - มีตำรับยากว่า 30 ตำรับครอบคลุมการดูแลโรคเรื้อรังในทุกระดับ และตั้งตำรับโดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยววชาญ อาจารย์หมอสุรพรรณ ศิริธรรมวานิช
•  - เป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นโรคเรื้อรังซึ่งอาจจะป่วยหลายโรค และต้องการฟื้นฟูสุขภาพทั้งระบบแบบองค์รวม
•  - การรักษาด้วยสมุนไพรแบบตำรับจากสุพรรณคลินิก ช่วยให้หมดกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง ของยาเคมี

ปัจจุบันการดูแลสุขภาพและการรักษาผู้ป่วยเบาหวานและโรคเรื้อรังต่าง ๆ ด้วยสมุนไพร เป็นศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่ได้รับการยอมรับ เพราะผ่านกระบวนการสืบทอด พัฒนาปรับปรุงจนเกิดเป็นองค์ความรู้ที่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพให้เกิดความยั่งยืน และยังถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ที่โรงพยาบาลรักษาไม่ได้ สำหรับแนวทางการรักษาของสุรพรรณคลินิก ใช้ตำรับยาสมุนไพร ไทย – จีน ผสมผสานในการรักษาโรคเบาหวาน โดยคุณหมอสุรพรรณ ศิริธรรมวานิช ได้คิดค้นตำรับยาสมุนไพรในการรักษาโรคเบาหวานและทำการรักษาผู้ป่วยสืบทอดต่อเนื่องมายาวนานกว่า 60 ปี ซึ่งตำรับยาดังกล่าวสามารถช่วยลดน้ำตาลสะสมได้อย่างเห็นผลลัพธ์และเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนและความรุนแรงของโรคได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีผลงานการวิจัยจากสถาบันชั้นนำของประเทศไทยรองรับ ผู้ที่สนใจสามารถของศึกษางานอ้างอิงได้ที่คลินิกทั้ง สาขา ราชบุรี, กรุงเทพฯ และเชียงใหม่