“กรดไหลย้อน” โรคใกล้ตัวที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน อาการส่วนใหญ่เป็น ๆ หาย ๆ เป็นโรคที่ดูเหมือนไม่อันตรายแต่รบกวนชีวิตประจำวัน หากทิ้งไว้นานโดยไม่ดูแลรักษาอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือกังวลกับอาการของโรค

โรคกรดไหลย้อน คืออะไร

โรคกรดไหลย้อน หรือ gastroesophageal reflux disease : GERD เป็นความผิดปกติที่กรดจากกระเพาะอาหารหรือน้ำย่อยจากลำไส้เล็ก ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ถือเป็นภัยเงียบที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะอาการของโรครบกวนต่อการชีวิตประจำวัน จากอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ หรือมีเรอเปรี้ยวซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีกลิ่นปาก

สาเหตุ และอาการของโรคกรดไหลย้อน

สาเหตุ ของโรคกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน เป็นโรคที่สามารถพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เกิดขึ้นได้ขากหลายสาเหตุ เช่นเกิดจากความผิดปกติในการบีบตัวของกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร หลอดอาหารส่วนปลายคลายตัวโดยที่ยังไม่กลืนอาหาร และเกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต สาเหตุสำคัญที่พบได้มากในผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน เช่น

•  - การรับประทานเสร็จแล้วนอนทันที
•  - การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
•  - มีภาวะความเครียด ทำให้หลอดอาหารมีความไวเกินต่อสิ่งกระตุ้น เมื่อมีกรดไหลย้อนขึ้นมาแม้
•  - รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน ยาแก้โรคซึมเศร้า ยาโรคหอบหืดบางตัว
•  - รับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนกระตุ้นเป็นประจำ เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม รวมไปถึงการสูบบุหรี่เป็นประจำเพียงเล็กน้อย จะมีอาการแสดงทันที

อาการของโรคกรดไหลย้อน

อาการของโรคกรดไหลย้อนจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่

•  - กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นกับกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร เช่น เรอเปรี้ยว หรือมีกรดซึ่งเป็นน้ำรสเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนจากคอขึ้นมาในปาก มักเป็นมากขึ้นหลังจากรับประทานอาหารมื้อหนัก
•  - กลุ่มอาการนอกหลอดอาหาร เช่น อาการทางหู คอ จมูกเจ็บคอเรื้อรัง มีกลิ่นปากโดยหาสาเหตุไม่ได้ หรืออาการทางปอด ผู้ป่วยจะมีอาการไอเรื้อรัง และเจ็บแน่นหน้าอกรุนแรงแบบเดียวกับผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด

สัญญาณเตือน โรคกรดไหลย้อน

แม้จะมีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโรคกรดไหลย้อน แต่หนึ่งในสาเหตุของกรดไหลย้อนที่พบได้มากก็คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย สัญญาณเตือนของโรคผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการของตนเองได้ ดังนี้

•  1. รู้สึกเหมือนมีน้ำย่อยขม ๆ ไหลย้อนมาที่คอ
•  2. แสบร้อนบริเวณหน้าอก ซึ่งจะเป็นมากหลังรับประทานอาหารมื้อหนัก
•  3. ท้องอืด แน่นท้อง คล้ายอาหารไม่ย่อย
•  4. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หลังรับประทานอาหาร
•  5. หืดหอบ ไอแห้งๆ เสียงแหบ และเจ็บคอเรื้อรัง
•  6. เจ็บหน้าอก จุก คล้ายเหมือนมีก้อนติดอยู่ในลำคอ

วิธีดูแลตัวเองง่าย ๆ ให้ห่างไกลโรคกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน เป็นโรคที่ไม่อันตรายหากไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่อาการของโรคสร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วย วิธีรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบัน มีทั้งวิธีกินยาและผ่าตัด แต่หากตรวจพบอาการของโรคได้เร็ว และผู้ป่วยเป็นในระยะเริ่มต้นการดูแลตนเองง่าย ๆ ก็ช่วยให้ห่างไกลจากโรคหรือลดความทรมานจากอาการของโรคได้ ดังนี้

•  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

พฤติกรรมการใช้ชีวิตคือสาเหตุของกรดไหลย้อนที่พบได้มาก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็น ปัจจัยเสี่ยง ช่วยป้องกันการเกิดกรดไหลย้อนได้แล้ว ยังลดความรุนแรงของของโรค สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้ เช่น

•  - เว้นระยะเวลาหลังจากรับประทานอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป ก่อนเข้านอน
•  - หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด อาหารไขมันสูง
•  - ควบคุมอารมณ์ หลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดจะไปกระตุ้นการทำงานของหลอดอาหาร ส่งผลต่ออาการกรดไหลย้อน
•  - ความอ้วนเป็นปัจจัยหนึ่งของกรดไหลย้อน หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินมาตรฐาน
•  - หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของทอด อาหารเผ็ดจัด รสจัด
•  - กรณีผู้ป่วยที่มีอาการขอโรค ควรแบ่งรับประทานอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ และรับประทานให้บ่อยขึ้น
•  - ควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในภาวะปกติ เช่น โรคเบาหวาน ความดัน
•  - รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการขับถ่าย ไม่ปล่อยให้ท้องผูก

•  2. รักษากรดไหลย้อนด้วยสมุนไพร

การดูแลรักษาอาการกรดไหลย้อนด้วยตัวเอง นอกจากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของโรคแล้ว การปรับสมดุลภายในร่างกาย ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ช่วยย่อยอาหาร และบำรุงอวัยวะภายใน เช่น กล้ามเนื้อหูรูด กล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร ด้วยสมุนไพรและตำรับยาสมุนไพร ก็เป็นวิธีรักษาที่ได้ผลดี สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบรรเทาโรคกรดไหลย้อนในเบื้องต้นมีหลายชนิด เช่น

•  - ขมิ้นชัน ย่อยอาหาร ขับลม และช่วยเคลือบหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
•  - ว่านหางจระเข้ วุ้นของว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยเคลือบหลอดอาหาร และป้องกันอาการอักเสบ
•  - กล้วยดิบ เนื่องจากเนื่องจากมีฤทธิ์ฝาดสมานช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบ และช่วยเพิ่มไฟเบอร์หรือแหล่งกากใยอาหาร
•  - ลูกยอ ช่วยย่อยอาหาร ขับลม ทำให้อาหารไม่ตกค้าง ไม่เกิดลมในกระเพาะอาหาร ช่วยเพิ่มการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้หูรูดหลอดอาหารแข็งแรงขึ้น
•  - ขิง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย บรรเทาอาการระคายเคืองในทางเดินอาหารและลดการบีบตัวของกระเพาะอาหาร

•  3. รักษากรดไหลย้อนด้วยตำรับยา จากสุรพรรณ คลินิก สุรพรรณคลินิก

เป็นแพทย์แผนไทยที่รักษาโรคเรื้อรังรวมทั้งโรคกรดไหลย้อน ด้วยตำรับยาสมุนไพรประสิทธิภาพสูง การใช้ยาแบบตำรับ คือการใช้สมุนไพรหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณในการรักษา อวัยวะที่เกิดปัญหา มาประสานฤทธิ์กันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยา และหักล้างฤทธิ์ที่ไม่ต้องการในสมุนไพรเดี่ยวแต่ละชนิด ทำให้การใช้ยาแบบตำรับมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง อีกทั้งการรักษาด้วยสมุนไพรแบบตำรับเป็นการรักษาแบบองค์รวม นอกจากจะเข้าไปรักษาที่สาเหตุของโรคแล้วอวัยวะข้างเคียงที่เกี่ยวข้องก็จะถูกฟื้นฟูบำรุงให้กลับมาแข็งแรงอีกด้วย ทำให้ผู้ป่วยเมื่อหายจากโรคแล้วไม่กลับมาเป็นซ้ำก็ได้รับการฟื้นฟูทั้งระบบ

ขั้นตอนการรักษาหลังจากผู้ป่วยเข้ารับการตรวจ คุณหมอจะจ่ายยา ให้เหมาะสมกับอาการของแต่ละท่าน โดยยาจะจ่ายให้เฉพาะบุคคลตามความหนักเบาของอาการเป็น เพื่อประโยชน์สูงสุดในการฟื้นฟูสุขภาพ เฉพาะตัวของผู้ป่วย เมื่อตำรับยาคงที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนสามารถสั่งซื้อยา เพื่อรักษาอาการกรดไหลย้อนส่งไปรษณีย์ และมาหาหมอตามนัดเพื่อตรวจดูอาการทุกๆ 1-3 เดือน ทำให้สะดวกสบายและสามารถดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ได้

กรดไหลย้อนเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุแม้จะเป็นโรคที่ดูไม่อันตราย แต่ก็ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผุ้ป่วยหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา อาการอาจรุนแรงและเกิดภาวะแทรกซ้อนมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลอดอาหารได้ หากพบสัญญาณเตือนของกรดไหลย้อน การดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ทำได้ง่าย ๆ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยของโรค ดูแลคนเองด้วยตำรับยาสมุนไพร จากแพทย์แผนไทยที่เชื่อถือได้ สุรพรรณคลินิกได้รับอนุญาตจากกรมการแพทย์แผนไทยกระทรวงสาธารณสุข และจดทะเบียนสถานพยาบาลถูกต้อง ยาสมุนไพรทุกตำรับทำจากสมุนไพร 100% ไม่มีส่วนผสมของเคมี ปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงอันตรายต่อผู้ใช้